Translate

วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อาหารเช้าพัฒนาเด็กวัยเรียน

อาหารมีความสำคัญกับเด็กวัยเรียน ทั้งต่อการเจริญเติบโต พัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ การเรียนรู้และสติปัญญา โดยร่างกายจะนำอาหารที่รับประทานไปเป็นส่วนประกอบของโครงสร้าง ตลอดจนการทำงานของทั้งร่างกายและสมอง
 

อาหารเช้าพัฒนาเด็กวัยเรี
 
         สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จัดอบรมโภชนศาสตร์สำหรับครูโภชนาการของโรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ขึ้นเพื่อให้ครูได้รู้จักอาหารที่ดีสำหรับสุขภาพ เลือกอาหารได้ถูกต้อง และเน้นความสำคัญของอาหารเช้า และบริโภคอาหารอย่างภูกต้องเหมาะสม

         นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ หน่วยพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช  กล่าวว่า อาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเรียน ได้แก่ อาหาร 3 มื้อ ที่มีสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 ได้แก่ 1.คาร์โบไฮเดรต 2.โปรตีน 3.ไขมัน 4.วิตามิน และ 5.เกลือแร่ ร่วมกับมีนมเป็นอาหารเสริมขนาดแก้วละ 240-250 ซีซี วันละ 2-3 แก้ว มีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นแหล่งของสารอาหารและพลังงานหลักสำหรับการทำกิจกรรมระหว่างวันของเด็ก เด็กอายุระหว่าง 6-10 ปี จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 3-3.5 กิโลกรัม

 
อาหารเช้าพัฒนาเด็กวัยเรี

        ส่วนสูงเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 6-7 ซม.ต่อปี ส่วนเด็กหลังอายุ 10 ปีไปแล้ว ควรมีน้ำหนักตัวเหมาะสมกับส่วนสูง โดยคำนวณจาก ดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว (หน่วยเป็นกก.)/ส่วนสูง (ยกกำลังสอง)(หน่วยเป็นเมตร) อยู่ระหว่าง 18.5-23.0 กก./ม. (ยกกำลังสอง)

         การจัดและควบคุมให้เด็กรับประทานอาหารอย่างเพียงพอกับความต้องการของร่างกายทั้งปริมาณ และคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อควบคุมให้เด็กมีน้ำหนักตัวอย่างเหมาะสม จะส่งผลดีต่อพัฒนาการทางร่างกาย ตลอดจนถึงสมองและการเรียนรู้ของเด็ก เป็นการป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังในวัยเด็กและเมื่อเติบโตขึ้นได้ ที่สำคัญ เด็กในวัยเรียนควรเน้นให้เด็กได้รับประทานอาหารเช้าอย่างเพียงพอ ทั้งปริมาณและสารอาหารเพื่อเป็นแหล่งของสารอาหารและพลังงานอย่างเพียงพอ ต่อการปฏิบัติภารกิจประจำวันของเด็กในวัยนี้ ครูและโรงเรียนต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เช่นในโรงเรียนไม่ให้ขายน้ำหวาน

        ขณะที่ ร.อ.หญิง กรกต วีรเธียร นักกำหนดอาหาร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า การจัดอาหารสำหรับนักเรียนนั้น เด็กจะต้องได้รับอาหารหลักให้ครบทั้ง 3 มื้อไม่ควรเว้นมื้อใดมื้อหนึ่งโดยเฉพาะมื้อเช้า อาหารที่เด็กได้รับจะต้องได้สัดส่วนของสารอาหารและพลังงาน ควรให้เด็กบริโภคอาหารตรงเวลา ไม่ควรให้เด็กรับประทานขนมจุบจิบ ควรจัดอาหารว่างที่มีคุณภาพให้เด็กบริโภคตอนสายและตอนบ่าย และในแต่ละมื้อไม่ควรจัดให้มีอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลอย่างเดียว ควรพยายามจัดให้ครบหมู่ ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารหมักดอง เนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก อาหารรสจัด น้ำอัดลม/ชา/กาแฟ ขนมหวาน ขนมกรุบกรอบ เป็นต้น



  ขอบคุณข้อมูล : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก  โดย ถนัดกิจ จันกิเสน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น