Translate

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

7 วิธีคุมกำเนินที่ทุกคนควรรู้

ึ7 วิธีคุมกำเนินที่ทุกคน
1.กินยาคุม  
       ฮอตฮิตมาก มีหลากหลายยี่ห้อ ยาคุมกำเนิด เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่นิยมกันมากที่สุด และให้ผลดี ซึ่งผลของยาคือ ทำให้ไข่ไม่ตก แต่ก็เป็นหน้าที่ของคุณผู้หญิงที่ต้องไม่ลืมรับประทานยา เพราะถ้าลืมบ่อยๆ ก็อาจจะผิดพลาดเกิดการตกไข่ขึ้นมาได้ และการรับประทานยาคุมกำเนิดนี้ บางคนอาจจะมีอาการแพ้ หรือมีประจำเดือนผิดปกติ จึงต้องสังเกตตัวเองให้ดี
       นับเป็นวิธีดั้งเดิมที่ลูกผู้หญิงนิยมและจำเป็นต้องทำ หากผู้ชายเป็นฝ่ายเอาเปรียบไม่คำนึงถึงผลเสียในการไม่สวมถุงยางอนามัย ผู้หญิงเราจะทำอะไรได้ดีไปกว่าการรับประทานยาคุมกำเนิดเล่า วิธีนี้นอกจากจะได้ผลดีแล้ว ยังทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ รักษาสิวได้ ที่สำคัญ บทเซ็กซ์ของคุณจะอิสระเสรีดังใจฝัน ปราศจากสิ่งพันธนาการมากั้นขวาง
       ยาเม็ดคุมกำเนิดประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิดคือ เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน(Progesterone) คุณสมบัติของมันนั้นดีเหลือเชื่อ เพราะจะยับยั้งการตกไข่และป้องกันไม่ให้มีไข่สุข อีกทั้งจะสกัดกั้นไม่ให้อสุจิเข้าสู่มดลูก และขัดขวางการฝังตัวของไข่ที่ผสมเสร็จแล้วด้วย เพราะฉะนั้น หากทำตามวิธีอย่างเคร่งครัดตามประเภท และชนิดของยาที่มีหลากหลาย วิธีนี้ได้ผลค่อนข้างชัวร์เช่นกัน 
 
2.ยาคุมฉุกเฉิน     
       ถ้าคุมแล้วพลาด..หรือไม่ทันได้ป้องกัน อย่าช้า!!! ใช้แผนสองด่วน ไม่ว่าเซ็กซ์ครั้งล่าสุดของคุณจะซาบซ่านถึงใจ จนถุงยางอนามัยเลื่อนหลุด ไม่มั่นใจว่าอาจจะแตก จะรั่ว หรือเพิ่งผ่านสถานการณ์ที่คุณไม่คาดคิดว่าจะเกิด จึงไม่ได้ป้องกัน พอหันกลับไปดูปฎิทินยังเป็นช่วงวันอันตรายอีกด้วย เอาเวลาที่ต้องนั่งกลุ้มไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินโดยด่วน 
       ยาคุมฉุกเฉิน ควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น เป็นยาที่ใช้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเซ็กซ์ครั้งนั้นคุณอาจจะไม่ได้ตั้งใจหรือไม่เต็มใจ จึงเรียกว่า Emergency Pills หรือ Morning after pills มีขายที่ร้านขายยาในชื่อ "โพสตินอร์" ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 85% (ย้ำว่า 85%นะคะ ฉะนั้นถุงยางอนามัยอย่าลืมใช้)
       วิธีกิน ยา 1 กล่อง จะมีเม็ดยา 2 เม็ด เม็ดที่ 1 กินภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากมีเซ็กซ์ เม็ดที่ 2 กินหลังจากกินเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง เมื่อกินแล้วอาจจะเกิดอาการคลื่นไส้ เวียนหัว ถ้ากินยาเม็ดแรกเข้าไปแล้วอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมง ต้องกินซ้ำเพราะตัวยายังไม่ได้ถูกดูดซึม และเมื่อถึงกำหนดมีรอบเดือนอาจจะมีเลือดออกมากะปริดกะปรอย หรือล่าช้าออกไปได้ เพราะตัวยาเป็นฮอร์โมนเพศในปริมาณสูงที่ไปรบกวนระบบรอบเดือนปกติได้
       
3.ฉีดยาคุมกำเนิด    
       เหมาะมากกับคุณผู้หญิงที่ชอบขี้ลืมกินยา เพราะยาคุมมีผลในการคุมกำเนิดเพียงแค่ 1 วัน ส่วนหากใช้วิธีฉีดยาคุมนั้นส่วนใหญ่จะมีฤทธิ์คุมกำเนิดได้ 3 เดือน ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดียวกับชนิดยากิน แต่มีข้อเสียคือ บางคนอาจจะรอบเดือนไม่มา หรือมากะปริบกะปรอย ซึ่งอาจจะสร้างความอึดอัด หรือรำคาญให้กับคุณสาวๆ บางนางได้ และบางรายอาจจะมีอาการแพ้ยาฉีด น่ากลัวชะมัด!      
       เป็นวิธีที่ถ้าไม่นับความสะดวกสบายแล้ว ข้อเสียเยอะมาก ทั้งทำให้ความต้องการทางเพศลดลง น้ำหนักเพิ่ม เกิดสิว ขนดกขึ้น เพราะเป็นยาคุมกำเนิดที่มีแต่โปรเจสเตอโรน เท่านั้น
       เฮ้อ… เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก ส่วนผู้ชายมันก็มีหน้าที่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นท่าเสกเด็กใส่ท้องลูกเดียว!
 
4.ใส่ถุงยางอนามัย 
       ถุงยางอนามัยสำหรับหญิง มีลักษณะเป็นถุงโปร่งแสง ทรงกระบอก ปลายมนทำด้วยโพลียูรีเธน ปลายเปิดของถุงยางมีขอบลักษณะคล้ายห่วงติดอยู่เรียกว่า ขอบนอก มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 เซนติเมตร  
       ภายในก้นถุงซึ่งเป็นปลายตันจะมีห่วงอีกอันหนึ่งวางอยู่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.5 เซนติเมตร เรียกว่า ขอบใน ซึ่งสามารถถอดออกได้ ขอบในจะใช้สอดถุงยางเข้าไปในช่องคลอด โดยบีบขอบในแล้วสอดเข้าไปจนสุดซึ่งจะเข้าไปครอบบนปากมดลูก และห่วงนี้จะยึดถุงยางไว้ไม่ให้หลุดออกมาในขณะที่ห่วงนอกที่เป็นขอบถุงยางจะช่วยให้ถุงยางแผ่ติดตรงบริเวณปากช่องคลอด
       ข้อดี ผู้หญิงสามารถป้องกันตนเองได้ สามารถสอดใส่ไว้ก่อนร่วมเพศได้ ขนาดของถุงมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างพอไม่ทำให้ฝ่ายชายอึดอัด มีความเหนียวและทนทานดี หลังการร่วมเพศแล้วฝ่ายชายไม่จำเป็นต้องรีบถอนอวัยวะเพศออกเพื่อถอดถุงยางอนามัยทันที ยังคงสามารถสัมผัสใกล้ชิดกันได้นานๆ
       ส่วนข้อเสีย การสอดใส่ถุงยางเข้าไปในช่องคลอดหญิงอายุน้อยบางคนยังรับไม่ได้ หรือมีห่วงอยู่ที่ขอบถุงยางซึ่งโผล่อกมานอกปากช่องคลอด ทำให้คู่นอนเสียความรู้สึกทางเพศ มีรูปร่างเทอะทะไม่น่าใช้ ผู้ใช้บางรายอาจมีอาการเจ็บขณะร่วมเพศ นอกจากนี้แล้วราคายังแพงกว่าถุงยางอนามัยชาย ถุงยางอนามัยชายจึงได้รับความนิยมมากกว่า 

5.ใส่ห่วงอนามัย
       มีรูปร่างหน้าตาเหมือนตัว T ต้องใส่โดยสูตินรีแพทย์ที่ชำนาญเท่านั้น โดยจะป้องกันการฝังตัวของตัวอ่อน แต่สามารถหลุดเองได้ แถมทะลุเข้าช่องท้องได้อีกต่างหาก อ้อ! การคุมกำเนิดชนิดนี้ ก็เป็นการคุมกำเนิดราคาถูกระยะยาวที่ได้ผล
       หากเป็นห่วงทองแดงสามารถอยู่ได้ถึง 10 ปี แต่ถ้าเป็นชนิดโปรเจสเตอโรนจะต้องเปลี่ยนทุกปี มีผลข้างเคียงน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น
       ห่วงอนามัย เป็นการใส่เครื่องมือในโพรงมดลูก เหมาะกับผู้หญิงที่เคยมีลูกแล้ว และมีอาการแพ้ยาคุมชนิดกินหรือฉีด ห่วงอนามัยจะมีหลายชนิด ทั้งชนิดที่มีตัวยา และไม่มีตัวยาใดๆ การใส่ห่วงต้องให้คุณหมอเป็นผู้ใส่ให้ อยากมีลูกตอนไหน ก็ให้คุณหมอถอดออกให้ และโดยปกติจะใส่ครั้งละ 3 ปี
       
6.นับวัน  
       เรามักจะได้ยินกันว่า ระยะปลอดภัยจากการตั้งครรภ์คือ “หน้า 7 หลัง 7” จากวันที่มีประจำเดือน ซึ่งหมายถึง การกะประมาณระยะเวลาที่ไข่ไม่ตก ดังนั้นจึงปฏิบัติภารกิจโป้งชึ่งกันได้ แต่ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป    
       การคุมกำเนิดวิธีนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีประจำเดือนคลาดเคลื่อน ฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจ และไม่อยากพลาด ไม่ควรใช้วิธีนี้
 
7.หลั่งข้างนอก  
       วิธีการหลั่งภายนอกช่องคลอด (Coitus interruptus) คือ การดึงอวัยวะเพศของผู้ชายออกจากช่องคลอดก่อนที่จะมีการหลั่ง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้เพียง 81-96% เท่านั้น และถึงแม้จะยังไม่มีการหลั่งเกิดขึ้น แต่ระหว่างที่แข็งตัว อวัยวะเพศชายจะผลิตของเหลว ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้ออสุจิมากมาย และสามารถทำให้ตั้งท้องได้เช่นเดียวกัน  
       ที่สำคัญคือ มีผู้ชายจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่ไม่สามารถบอกได้ว่า เมื่อไหร่ตัวเองจะเกิดการหลั่ง ดังนั้นวิธีนี้อาจจะเสี่ยงเกินไปสำหรับผู้ชายที่วิทยายุทธยังไม่แกร่งกล้า ผ่านศึกไม่โชกโชนมากนัก
       วิธีนี้ต้องอาศัยวิทยายุทธ์บู้ลิ้มของฝ่ายชายเท่านั้น ว่าสามารถหลั่งข้างนอกโพรงมดลูกได้ทันหรือไม่ แต่ระวังให้ดี เพราะเจ้าอสุจินับล้านจะวิ่งแข่งกันเข้าไปชนกับรังไข่แบบไม่รู้ตัว วิธีนี้ไม่ชัวร์นัก โอกาสล้มเหลวสูง งั้นไม่ควรให้คุณแฟนลอง มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะยะ
 
ขอบคุณที่มา
http://www.manager.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น