Translate

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทำไมเด็กควรนอนกลางวัน ?

ทำไมเด็กควรนอนกลางวัน ?


นักวิจัยมหาวิทยาลัยแมสซาชูเสตต์ แอมเฮิร์สท์ ที่อเมริกาแนะว่า ควร จะให้เด็กเล็กวัย 3–5 ขวบ นอนหลับกลางวันหลังกินอาหาร นานสัก 1 ชม. จะช่วยใน การเรียนรู้ของเขา ทำให้มีความจำติดแน่นขึ้น

ทีมศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งแมสซาชูเซตส์ แอมเฮิร์สต์ สรุปผลการศึกษาวิจัยการนอนหลับในช่วงบ่ายของเด็กๆ อายุระหว่าง 3-5 ขวบ จำนวน 40 คน ว่า การให้เด็กๆ เหล่านี้งีบหลับในช่วงบ่ายจะช่วยเพิ่มพลังสมองให้กับเด็กๆ ทำให้ความทรงจำดีขึ้น และผลดีดังกล่าวจะยังคงอยู่กับเด็กไปจนกระทั่งถึงเช้าวันถัดไปอีกด้วย

ทีมวิจัยพบว่า เด็กๆ จะแสดงความสามารถในส่วนที่เกี่ยวกับการมองเห็นได้ดีกว่าเด็กๆ ซึ่งไม่ได้งีบหลับหลังอาหารกลางวัน นอกจากนั้น หลังการงีบหลับดังกล่าว เด็กเหล่านั้นจะฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ ที่พวกเขาถูกทดสอบได้มากขึ้นกว่าการที่ไม่ได้งีบหลับถึง 10 เปอร์เซ็นต์

คณะนักวิจัยได้รายงานผลการศึกษาในวารสารของ “สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” ว่า เราจะเห็นผลของการให้นอนได้ ตั้งแต่เด็กตื่นนอนขึ้นไปจนกระทั่งวันใหม่ รายงานอ้างว่า การนอนเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะขาดได้ของการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและจิตใจ ซึ่งเกิด ขึ้นมาจากการที่สมองเป็นผู้รวบรวม เรียบเรียง และเป็นการสร้างข้อมูลขึ้นมาใหม่ โดยความจำระยะสั้น จะถูกตกผลึก กลายเป็นส่วนของความจำระยะยาวหรือความจำถาวร ซึ่งการ นอนหลับจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเปลี่ยนความจำระยะสั้นให้เป็นความจำระยะยาว

ทั้งนี้ เมื่อมีการนำเด็ก 14 คนมาทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่า เมื่องีบหลับนั้น สมองในส่วนที่เชื่อมโยงกับการเรียนรู้ และการรวบรวมข้อมูลใหม่ๆ ของเด็กจะมีกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น

รีเบคก้า สเปนเซอร์ หัวหน้าทีมวิจัยระบุว่า งานวิจัยชิ้นนี้ตอกย้ำความเชื่อที่มีมาก่อนหน้านี้ด้วยหลักฐานจากห้องทดลองเป็นครั้งแรกว่า เด็กที่งีบหลับนั้นจะมีความทรงจำในสิ่งที่พวกเขาเรียนมาดีกว่าเด็กที่ไม่ได้นอนหลับอย่างชัดเจน

นายแพทย์โรเบิร์ต สก็อต-จูปป์ จาก รอยัล คอลเลจ ออฟ เพเดียทริกส์ แอนด์ ไชล์ด เฮลธ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เด็กเล็กจำเป็นต้องนอนหลับราว 11-13 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้สมองมีโอกาสพักและกลับมามีความสามารถในการรองรับข้อมูลใหม่ๆ ได้อีกครั้งหนึ่ง งานวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการนอนกลางวันสำหรับเด็กก็มีความสำคัญพอๆ กับตอนกลางคืน ในการป้องกันไม่ให้เด็กอ่อนล้า ง่วงซึม ขี้ลืมและขาดสมาธิ

เรียบเรียงโดย 
Riya www.eduzones.com
ข้อมูล : ไทยรัฐออนไลน์ 7 ตุลาคม 2556, มติชนรายวัน 30 ก.ย.2556
photo credit : amsterdam-mamas.nl 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น